เคล็ด...ไม่ลับ วิธียืดอายุ ยางรถยนต์
ยางรถยนต์ ที่ใช้กันบนท้องถนนทั่วไปนั้น จะมีอายุการใช้งานเฉลี่ยประมาณ 3 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร หากแต่ผู้ใช้รถนั้นได้ดูแลรักษาล้อยางอย่างสม่ำเสมอ คุณภาพของยางก็อาจจะใช้ได้ยาวนานยิ่งขึ้น
วันนี้ เรามาดูวิธีที่จะรักษาสภาพยางรถของเราให้ใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น นั้นทำอย่างไรบ้าง
1. คอยตรวจสอบหน้ายางและแก้มยางว่ามีความเสียหายใดๆ เกิดขึ้นบ้าง เช่น รอยบาด การบวม การแตกลายงาในทุกส่วนของยาง หากเกิดการชนหรือมีรอยบาดที่แก้มยางจนถึงชั้นผ้าใบ ควรเปลี่ยนใหม่ ไม่ควรซ่อม เพราะแก้มยางคือจุดที่ต้องรับน้ำหนัก และมีการบิดตัวไปมาขณะรถยนต์ขับเคลื่อน อาจเกิดการระเบิดได้หากมีการฉีกขาด
2. ควรหลีกเลี่ยงการจอดหรือขับทับน้ำมัน เพราะน้ำมันทุกชนิดมีผลทำให้ยางบวมหรือร่อน หรือหากมีน้ำกรดโดนยาง ควรล้างออกด้วยน้ำสบู่โดยทันที
3. ตรวจสอบสภาพของล้อกระทะ และวาล์วเติมลมเป็นประจำ เพราะหากมีปัญหาที่จุดนี้ จะทำให้ยางที่ใช้มีสภาพที่ไม่สมบูรณ์ เช่น ลมรั่ว และอาจก่อให้เกิดการเสื่อมสภาพตามมาได้
4. เมื่อรถเสีย และถูกลากเป็นระยะทางไกล ๆ (สำหรับรถขับเคลื่อนล้อหน้า) ควรเพิ่มแรงดันลมยางที่ล้อหลังอีก 3-4 ปอนด์/ตารางนิ้ว
5. พยายามอย่าเข้าโค้งอย่างรุนแรง หรือการออกตัวแบบกระชากกระชั้น เพราะจะทำให้ยางสึกเร็วกว่าปกติ
6. หมั่นตรวจสอบความลึกของดอกยางว่าถึงระดับที่ควรเปลี่ยนหรือยัง ซึ่งความลึกของร่องยางที่เหมาะสม ควรมากกว่า 2 มิลลิเมตร โดยยางเกือบทุกรุ่นจะมีสัญลักษณ์บอกระดับความลึกของดอกบาง เป็นแท่งเชื่อมระหว่างดอกยางบริเวณส่วนลึกสุดของร่องยาง (ไม่ใช่ทุกร่อง) เมื่อไรที่ดอกยางสึกจนถึงแท่งนี้ แสดงว่าควรเปลี่ยนยางเส้นใหม่ แต่ใช่ว่ายางที่มีร่องยางอยู่นั้นจะเป็นยางที่ยังใช้ได้ เพราะยางที่มีอายุใช้งานที่นานมากจะแข็ง ซึ่งก็เป็นอาการเสื่อมสภาพของยางเช่นกัน
7. ควรแคะก้อนกรวดที่ค้างอยู่ในร่องยางออกให้หมด เพราะสิ่งเหล่านี้จะค่อยๆ เบียดลงไปจนทำให้ทิ่มตำเนื้อยางได้
นอกจากการดูแลรักษาที่ถูกวิธีแล้ว การเลือกยางให้เหมาะสมกับการใช้ให้เหมาะสมกับการใช้รถแต่ละประเภท ก็มีส่วนในการยืดอายุการใช้งานได้ เหนือสิ่งอื่นใด ยังหมายถึงความปลอดภัยของชีวิตด้วย